การเติมลมยางรถ เป็นสิ่งที่คุณควรทำเสมอเมื่อตรวจสอบลมยางแล้วเหลือน้อย หรือยางเริ่มแบน เพียงจับที่บริเวณยางก็จะทราบทันทีว่าสภาพลมยางยังดีอยู่หรือไม่ หากยางค่อนข้างอ่อนหรือแบนอย่างเห็นได้ชัดเจน ก็จะต้องเติมลมยาง โดยลมที่ใช้เติมจะมีอยู่ 2 ชนิด คือ ลมธรรมดาที่หาได้ง่าย และ ลมยางไนโตรเจน รูปแบบใหม่ แน่นอนว่าหลายคนคงสงสัยว่ารูปแบบใดมีคุณภาพดีกว่ากัน ซึ่งเราจะมาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของมันนั่นเอง
ลมยางไนโตรเจนคืออะไร
สำหรับลมประเภทใหม่ที่คนนำมาเติมใส่ในยางรถ ก็คือ แก๊สชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของชั้นบรรยากาศโลก ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องอยู่ในอากาศที่เราหายใจทุก ๆ วันอย่างแน่นอน เป็นเพียงแก๊สที่ไม่มีสีหรือกลิ่น แต่จะมีคุณสมบัติที่โดดเด่น ข้อดี หรือข้อเสียอย่างไร มาดูกันได้เลย เรานำมาเปรียบเทียบกันทั้ง 2 รูปแบบ ดังนี้
ลมยางธรรมดาดีอย่างไร
ข้อดีของการเติมลมธรรมดา ก็คือ คุณสามารถที่จะเติมลมได้ทุกที่ ทุกบริเวณปั๊ม ซึ่งหาได้ง่าย เติมลมได้ทันทีที่ต้องการนั่นเอง ส่วนในด้านข้อเสียของยางธรรมดา ก็คือ ลมภายในยางที่เติมแล้ว สามารถรั่วไหลออกมาทีละน้อยได้ หากไม่ได้ใช้งาน ทำให้ผู้ที่มียานพาหนะชนิดต่าง ๆ จะต้องหมั่นตรวจสอบลมยางอยู่เสมอ ก่อนที่คุณจะใช้งานรถนั่นเอง เพื่อให้ใช้งานรถของคุณได้อย่างเต็มที่ หากไม่ตรวจสอบลมที่ล้อของยานพาหนะบ่อย ๆ อาจทำให้รถไม่สามารถใช้ได้เลย
ลมยางไนโตรเจนดีอย่างไร
สำหรับข้อดีของการเติมลมยางไนโตรเจน ก็คือ ช่วยลดโอกาสในการเกิดยางระเบิด เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวช้า ทำให้ไม่มีความร้อนสะสะสมอยู่บนตัวยาง เมื่อใช้งานรถจึงทำให้ยางเสียดสีกันน้อย อัตราการระเบิดจึงน้อยนั่นเอง แต่ข้อเสียของการเติมลมแบบนี้ ก็คือ มีจุดหรือสถานที่ที่ให้บริการลมประเภทนี้น้อยหรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ ทำให้โอกาสในการใช้งานน้อยมากนั่นเอง
ดังนั้น หากจะเปรียบเทียบระหว่าง ลมยางไนโตรเจน และลมธรรมดา ว่าเติมแบบไหนดีกว่ากัน ต้องบอกเลยว่า ทั้งสองประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ไม่มีลมรูปแบบใดที่มีข้อดีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน เช่น ลมธรรมดาอาจมีข้อดีในเรื่องหาเติมได้ง่าย มีให้บริการอยู่ทั่วไป ลมไนโตรเจนก็อาจจะมีข้อดีในด้านการถนอมยางไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว เป็นต้น ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียทั้งสองรูปแบบ คุณจึงสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการได้ทันที เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์ในแบบที่คุณพึงพอใจนั่นเอง
ขอบคุณข้อมุลจาก : https://24warrant.com/