top of page

ผู้ป่วยใน (IPD) ผู้ป่วยนอก (OPD) ต่างกันอย่างไร เรื่องที่ต้องรู้ก่อนทำประกันสุขภาพ

เพราะชีวิตเป็นเรื่องไม่แน่นอน การมีประกันสุขภาพติดตัวไว้จะช่วยลดค่ารักษาได้ดีกว่า แต่ถ้าเพื่อนๆ ยังสับสนกับคำว่า “ผู้ป่วยใน (IPD)” และ “ผู้ป่วยนอก (OPD)” หรือยังไม่เข้าใจถึงรายละเอียดการรักษาในขอบเขตของคำสองคำนี้ วันนี้ Purple INS จะมาขยายความให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจมากขึ้นกว่าเดิมกันค่ะ

ก่อนที่เพื่อนๆ จะทำประกันสุขภาพ มีข้อมูลหลายเรื่องที่เพื่อนๆ ควรที่จะต้องศึกษาให้ชัดเจน เพราะหากขาดความรู้ส่วนใดส่วนหนึ่งไปอาจจะทำให้การซื้อประกันไม่ครอบคลุมความ

ต้องการในการใช้งานได้

และในวันนี้..เราอยากจะมาอธิบายความแตกต่างของค่ารักษาพยาบาลสำหรับการรักษาผู้ป่วยแบบ IPD และ OPD ว่ามีความสำคัญต่อการทำประกันสุขภาพอย่างไร มาติดตามกันได้เลยค่ะ



ผู้ป่วยใน (IPD)

IPD หรือ In-Patient-Department มีความหมายตรงตัวว่า “ผู้ป่วยใน” ซึ่งหมายถึง ผู้ป่วยที่จะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และจะต้องมีการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป

โดยส่วนใหญ่แล้ว...ลูกค้าที่ซื้อประกันสุขภาพประเภท IPD มักจะเป็นกลุ่มเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ที่มีโอกาสในการเจ็บป่วยหรือมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพที่ต้องนอนโรงพยาบาลบ่อยๆ รวมไปถึงคนที่รักและห่วงใยในสุขภาพของตนเอง ก็สามารถซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาสำหรับผู้ป่วยในได้เช่นกัน




การซื้อประกันในรูปแบบนี้จะครอบคลุมการรักษาหลายส่วน เช่น ค่ารถพยาบาล ค่าปรึกษาแพทย์ ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่าเอกซเรย์ ค่าเครื่องมือในการผ่าตัด ค่าธรรมเนียม หรือค่าชดเชยจากการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งรายละเอียดวงเงินจะแตกต่างกันตามแผนประกันสุขภาพที่เลือก


ผู้ป่วยนอก (OPD)

OPD หรือ Out-Patient-Department หรือ “ผู้ป่วยนอก” หมายถึง ผู้ป่วยที่เข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลแบบไม่จำเป็นต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล อาจจะเป็นเพียงแค่การตรวจร่างกาย และมีการรับยาเพื่อกลับไปรักษาต่อที่บ้าน

การรักษาแบบ OPD โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ได้รุนแรงจนถึงขั้นจะต้องนอนโรงพยาบาล หากคุณทำประกันสุขภาพเอาไว้ เวลาไปหาหมอก็ไม่ต้องสำรองจ่ายด้วยตัวเอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วประกันสุขภาพแบบ OPD จะครอบคลุมทั้งค่าปรึกษาแพทย์ ค่ารักษาพยาบาล และค่ายา แต่จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปในแต่ละบริษัทประกัน ทั้งนี้ ก็ต้องดูความครอบคลุมให้ชัดเจน รวมไปถึงวงเงินที่สามารถใช้ได้ในการรักษาพยาบาลแต่ละครั้งด้วย


หากเพื่อนๆ เข้าใจความแตกต่างของ IPD และ OPD เป็นอย่างดี ก็จะทำให้เพื่อนๆ สามารถจะตัดสินใจได้ว่า...ควรที่จะซื้อประกันสุขภาพให้มีความครอบคลุมการรักษาในส่วนใดบ้าง เพราะก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อประกันสุขภาพสักฉบับหนึ่ง กรมธรรม์จะมีการระบุความครอบคลุมในการรักษาอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่เพื่อนๆ ต้องนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจก่อนจ่ายเงินค่าประกัน

ความเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่เกิดได้ตลอดเวลา หากเพื่อนๆ คนไหนยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อประกันสุขภาพแบบใด สามารถติดต่อสอบถาม Purple INS ได้เลย เพราะเรามีทีมงานที่จะคอยให้คำแนะนำ และเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าทุกๆ ท่านได้อย่างดีที่สุดค่ะ


 

ต้องการสอบถาม หรืออ่าน Insight เกี่ยวกับการประกัน สามารถติดตามเราได้ที่

LINE Official : @purpleins หรือเว็บไซต์ www.purpleins.com

โทร 061-725-9222


27 views0 comments
bottom of page