top of page

เทคนิคการลดค่าประกันรถยนต์ มีกี่วิธีกันนะ?




เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หลังจากเกิดอาการตกใจ สิ่งที่คิดตามมาก็คือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมไปถึงค่าประกันที่เราจะต้องจ่าย วันนี้ ทาง Purple ins ขอนำเสนอ เทคนิคในการลดค่าประกันรถยนต์ที่หลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่ทราบ ให้ได้ทราบกันอย่างทั่วถึง เทคนิคการลดค่าประกันมีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย



ประเภทที่ 1 ส่วนลดจากการระบุชื่อผู้ขับขี่ คืออะไร? ลดได้เท่าไหร่?




การระบุชื่อผู้ขับขี่ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำส่วนลดเบี้ยประกันภัย โดยสามารถระบุชื่อได้สูงสุด 2 คนต่อรถ 1 คัน ในเรื่องของอัตราส่วนลดนั้น จะขึ้นอยู่กับอายุของผู้ขับขี่ ยิ่งอายุมาก ก็ยิ่งได้รับส่วนลดมาก ในกรณีที่ระบุชื่อผู้ขับขี่ 2 คน ให้คำนวณอัตราส่วนลดจากคนที่อายุน้อยที่สุด


แบ่งตามช่วงอายุได้ดังนี้

อายุ 18 - 24 ปี อายุ 25 - 35 ปี อายุ 36 - 50 ปี อายุ 50 ปีขึ้นไป

ช่วงอายุ 18-24 ปี จะได้รับอัตราส่วนลดน้อยที่สุด ส่วนอายุ 50 ปีขึ้นไป จะได้รับอัตราส่วนลดมากที่สุด


ข้อดี

  • เบี้ยประกันถูกลง

  • ฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดสามารถเคลมได้หมด ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ผู้แจ้งเคลมต้องเป็นผู้ที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์

ข้อเสีย

  • หากผู้แจ้งเคลม ไม่ใช่คนที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ จะมีค่าเสียหายส่วนแรกในการแจ้งเคลม ซ่อมรถตัวเอง 6,000 บาท ซ่อมรถคู่กรณี 2,000 บาท (รวม 8,000 บาท) แต่สามารถเลือกเคลมรถของตัวเองเพียงอย่างเดียว หรือ เคลมรถคู่กรณีเพียงอย่างเดียวได้


ประเภทที่ 2 ส่วนลดจากการระบุค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจ ระบุได้เท่าไหร่?




ค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจ ลูกค้าสามารถเลือกที่จะระบุหรือไม่ระบุค่าเสียหายก็ได้ตามใจชอบ ลูกค้าก็สามารถเป็นผู้กำหนดวงเงินที่จะระบุค่าเสียหายส่วนแรกได้ ที่นิยมใช้กันคือ 2,000 บาท 3,000 บาท และ 5,000 บาท


ข้อดี

  • เบี้ยประกันถูกลง

  • หากเป็นฝ่ายถูก ลูกค้าสามารถแจ้งเคลมได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก

ข้อเสีย

  • หากเป็นฝ่ายผิด สามารถแจ้งเคลม แต่จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกตามที่ระบุไว้


ประเภทที่ 3 ส่วนลดประวัติดี ได้รับเมื่อไหร่?



ลูกค้าจะได้รับส่วนลดประวัติดีเมื่อต่อประกันรถยนต์กับบริษัทประกันเจ้าเดิมในปีถัดไป


ข้อดี

  • ลูกค้าไม่มีเคลมเลย จะได้รับส่วนลดประวัติดีเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ปีละ 10% และจะหยุดอยู่ที่ 50% ซึ่งถือเป็นส่วนลดที่มากที่สุดสำหรับลูกค้าที่มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดีจะได้รับ

  • ลูกค้ามีเคลม แต่เป็นฝ่ายถูก ในปีต่ออายุประกันภัย ลูกค้าอาจไม่ได้รับส่วนลดประวัติดี แต่จะไม่ถูกปรับลดส่วนลดประวัติดีลง เช่น เดิมลูกค้าได้รับส่วนลดประวัติดีที่ 30% ในปีต่ออายุ ส่วนลดประวัติดีของลูกค้าก็จะยังคงที่ที่ 30%

ข้อเสีย

  • ลูกค้ามีเคลม และเป็นฝ่ายผิด ในปีต่ออายุประกันภัย ลูกค้าอาจถูกปรับส่วนลดประวัติดีลง 10% เช่น เดิมลูกค้าได้ส่วนลดประวัติดี 30% แต่มีเคลม และเป็นฝ่ายผิด ในปีต่ออายุ ส่วนลดประวัติดีของลูกค้าจะเหลือเพียง 20%


** หมายเหตุ ทั้งนี้ส่วนลดประวัติดีอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งในการแจ้งเคลม และค่าใช้จ่ายในการเคลมซ่อมรถของเราด้วย


จบกันไปแล้วสำหรับการแนะนำวิธีการเทคนิคต่าง ๆ ในการลดค่าประกันรถยนต์ ทาง Purple ins หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าเทคนิคที่เรานำเสนอจะช่วยให้ท่านสามารถนำไปใช้ได้อย่างประสิทธิภาพ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าประกันอีกต่อไป สำหรับท่านใดที่ยังเป็นกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่เราต้องแจ้งให้กับบริษัทประกัน เรามีบทความที่จะช่วยขยายความเข้าใจให้ท่าน เพียงคลิก เวลาแจ้งเคลมรถยนต์ ควรให้ข้อมูลอะไรกับบริษัทประกันบ้าง?


หากท่านใดยังไม่มีประกันรถยนต์หรือสนใจที่จะทำประกันรถยนต์ ทาง Purple ins มีประกันที่หลากหลายตัวเลือกให้ท่านได้เลือกอย่างมากมาย เพียงคลิก ประกันรถยนต์จาก Purple ins


 

ต้องการสอบถาม หรืออ่าน Insight เกี่ยวกับการประกัน สามารถติดตามเราได้ที่

LINE Official : @purpleins หรือเว็บไซต์ www.purpleins.com

โทร 061-725-9222






102 views0 comments
bottom of page