ประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
Updated: Sep 20, 2019
"ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+, ประกันรถยนต์ชั้น 3+"... ถ้าพูดถึงประกันรถยนต์ เราคงเคยได้ หรือพอคุ้นๆ คำเหล่านี้มาบ้าง บางคนก็บอกว่า ต้องประกันชั้น 1 เท่านั้นถึงจะดีที่สุด บ้างก็บอกว่า ประกันชั้น 1 แพงเกินไป ใช้แค่ 2+ ก็พอ แล้วจริงๆแล้ว ประกันรถยนต์แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร วันนี้น้องอัญชันจะพาพี่ๆมาหาคำตอบกันค่ะ

ประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จัดว่าเป็นประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมที่สุด คุ้มครองทั้งทรัพย์ของบุคคลภายนอก และคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถของผู้เอาประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดจาก รถชนรถ หรือรถชนต้นไม้ เสาไฟฟ้า กำแพงสิ่งก่อสร้าง เป็นต้น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะมีค่าเบี้ยประกันภัยแพงที่สุด เนื่องจากความคุ้มครองที่สูง และครอบคลุมกว่าประกันภัยรถยนต์ชั้นอื่นๆนั่นเอง สำหรับประกันภัยรถยนต์ที่มีให้ผู้เอาประกันเลือกซื้อนั้นจะแบ่งออกเป็นหลักๆ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ซ่อมห้าง (ซ่อมศูนย์) ผู้เอาประกันภัยที่ถือกรมธรรม์แบบซ่อมห้าง หมายถึง กรณีที่ผู้เอาประกันภัย ต้องการนำรถเข้าซ่อม จะสามารถนำรถเข้ารับการซ่อมแซมได้ที่ ศูนย์รถยนต์ต่างๆ ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากแบรนด์รถยนต์ที่ผู้เอาประกันภัยใช้อยู่ และยังสามารถนำรถเข้าซ่อมได้ตามอู่ซ่อมรถยนต์ที่เป็นคู่สัญญากับบริษัทประกันก็ได้ ราคาของประกันภัยแบบซ่อมห้างนี้ จะสูงกว่าซ่อมอู่ และจำกัดอายุรถเอาประกันไว้ที่ ไม่่เกิน 5-7 ปี ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัย ที่ท่านเลือกใช้ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ซ่อมอู่ ผู้เอาประกันภัยที่ถือกรมธรรม์แบบซ่อมอู่ หมายถึง กรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องการนำรถเข้าซ่อม จะสามารถนำรถเข้ารับการซ่อมแซมได้ที่อู่ซ่อมรถยนต์ที่เป็นคู่สัญญากับบริษัทประกัน การรับประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบซ่อมอู่ จะจำกัดอายุรถเอาประกันไว้ที่ไม่เกิน 10 ปี
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ จะเหมาะกับรถที่มีอายุมากเกินกว่าที่จะสามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่ไม่เกิน 20 ปี และก็ยังต้องการความคุ้มครองแบบครอบคลุมอยู่ ประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้ จะคุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกันภัย คล้ายๆกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองทั้ง รถหาย ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ คุ้มครองบุคคลภายนอก และคุ้มครองรถผู้เอาประกันภัย เพียงแต่ในส่วนความคุ้มครองของรถผู้เอาประกันภัย จะเหลือเพียงคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับตัวรถ กรณี รถชนรถ เท่านั้น จะไม่่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการถอยรถไปชนต้นไม้ เสาไฟฟ้า หรือกำแพงบ้าน เป็นต้น
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ จะเหมาะกับรถที่มีอายุมากเกินกว่าที่จะสามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่ไม่เกิน 20 ปี และต้องการความคุ้มครองไม่มากนัก เน้นประหยัดค่าใช้จ่าย ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ จะมอบความคุ้มครองคล้ายๆกับประกันภัยชั้น 2+ คุ้มครองบุคคลภายนอก คุ้มครองรถผู้เอาประกันภัย กรณีรถที่เอาประกันภัยเกิดความเสียหายจากรถชนรถ แต่จะไม่คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้

#PurpleINS #ประกันภัยราคาดีไม่มีค่านายหน้า #ประกันรถยนต์ #น้องอัญชัน