เคลมประกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เบี้ยประกันแพงขึ้น

ใครที่กำลังจะแจ้งเคลมประกัน มาทางนี้เลยค่าา วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับกันค่ะ ว่าเคลมประกันแบบไหนที่จะไม่ให้เบี้ยประกันขึ้นเยอะจนเกินไปค่ะ ก่อนอื่นต้องขอเล่าเกี่ยวกับการคิดราคาประกันของบริษัทประกันนิดนึงค่ะ ราคาเบี้ยประกันที่เราจ่ายแต่ละปีจะถูกคำนวนมาจากบริษัทประกันค่ะ โดยคิดจากปัจจัยคร่าวๆ 3 อย่างดังนี้ค่ะ 1. คุณเป็นฝ่ายถูก หรือผิดในการแจ้งเคลมแต่ละครั้ง 2. จำนวนครั้งในการแจ้งเคลม 3. ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการเคลมทั้งหมด พูดง่ายๆก็คือ ถ้าเป็นฝ่ายผิด (ขับรถไปชนคนอื่น เบียดฟุตบาท ชนเสา) แจ้งเคลมบ่อยๆ 2 ครั้งขึ้นไป และรอยแผลที่เคลมมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูง แบบนี้บอกได้เลยว่า เบี้ยประกันเพิ่มขึ้นสูงมากๆแน่นอนค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วจากประสบการณ์ลูกค้าที่มีการแจ้งเคลมบ่อยๆเกินกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ส่วนใหญ่จะยังไม่ค่อยมีความชำนาญ หรือความระมัดระวังในการขับรถเท่าไหร่นัก ทำให้เกิดรอยแผลเล็กๆน้อยๆ ตามสปอยเลอร์ กันชน กระจกมองข้าง ท้ายรถ เล็กๆน้อยๆ รอบคัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นชิ้นส่วนรถที่ทำมาจากพลาสติกเกือบทั้งนั้น (รถ 1 คันจะมีส่วนที่เป็นโครงและเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทำจากโลหะ และส่วนเสริมอื่นๆทำจากพลาสติก) ถ้ารอยแผลที่เกิดขึ้นอยู่ในส่วนที่เป็นชิ้นส่วนพลาสติกของรถ เราสามารถปล่อยไว้สักระยะแล้วค่อยแจ้งเคลมได้ค่ะ เพราะว่าชิ้นส่วนพลาสติกไม่ขึ้นสนิม ดังนั้นจึงจะไม่ส่งผลเสียต่อตัวรถของเรา ดังนั้นแล้ว สำหรับมือใหม่ที่ไม่อยากให้เบี้ยประเพิ่มขึ้นเยอะ ทาง Purple INS จึงแนะนำว่า ให้รวบรวมไว้เคลมครั้งเดียวดีกว่า เนื่องจากส่วนใหญ่แล้ว รอยเฉี่ยวชนเล็กๆน้อยๆ มักเกิดบนชิ้นส่วนเดิมซ้ำๆ แบบนี้จะทำให้เราสามารถลดจำนวนครั้งในการแจ้งเคลม และลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเคลมลงได้ เป็นผลทำให้ค่าเบี้ยประกันของเราไม่เพิ่มสูงเกินไปอีกด้วยค่ะ
สำหรับทใครที่อยากสอบถามการเคลมเพิ่มเติม สามารถสอบถามกันเข้ามาที่ LINE Official: @purpleins กันได้เลยนะคะ