พ่วงแบตเตอรี่รถยนต์อย่างไร?ให้ถูกต้องและปลอดภัย
“รถสตาร์ทไม่ติด..ทำยังไงดี?”
หลายท่านเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ถึงกับสตั๊นไปกันเลยใช่ไหมคะ? การที่รถสตาร์ทไม่ติดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการลืมปิดไฟหน้าจนแบตหมดบ้างล่ะ หรือบางทีเกิดจากปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมก็อาจเป็นได้ ทางออกฉุกเฉินที่นิยมทำกันคือขอความช่วยเหลือจากรถคันอื่นให้มาช่วยพ่วงแบตเตอรี่รถแก้ขัดกันไปก่อน เพื่อให้สามารถเดินทางต่อไปได้ แต่จะพ่วงแบตเตอรี่อย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัยสำหรับทุกฝ่าย วันนี้เรามีคำตอบค่ะ

ใช้สายพ่วงแบตเตอรี่แบบไหนดี?
ก่อนอื่นเราต้องมีสายพ่วงแบตเตอรี่เป็นไอเท็มสำคัญติดรถเอาไว้ด้วยนะคะ เพราะโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ที่รถสตาร์ไม่ติดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ในการเลือกสายพ่วงแบตเตอรี่ก็ให้เลือกที่ดีๆมีคุณภาพกันหน่อยเพราะถ้าสายพ่วงไม่ดี ทำให้ชาร์จไฟไม่ได้ หรือบางทีอาจจะถึงขั้นสายไหม้เพราะมีความร้อนสะสมสูงเกินไปก็มี ส่วนวิธีการเลือก ให้เลือกสายที่มีขนาดใหญ่ เพราะการจั๊มแบตเตอรี่จะมีการวิ่งของกระแสไฟที่มากพอสมควร ถ้าสายมีขนาดเล็กไป ไฟจะวิ่งได้ไม่พอ ส่วนหัวที่หนีบสายพ่วงให้เลือกใช้ที่แข็งแรง ไม่หักหรืององ่าย แนะนำให้เลือกสายพ่วงแบตเตอรี่ที่แยกออกจากกัน จะสะดวกต่อการใช้งานมากกว่าค่ะ
วิธีพ่วงแบตเตอรี่ที่ปลอดภัย
ถ้าจู่ๆรถของคุณเกิดสตาร์ทไม่ติด และหากมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่หมด อันดับแรกให้ขอความช่วยเหลือจากรถคันอื่นที่จะมาช่วยจ่ายไฟให้กับรถของคุณก่อน โดยจอดรถให้ส่วนของแบตเตอรี่อยู่ใกล้กันมากพอที่สายพ่วงแบตเตอรี่จะสามารถต่อกันได้ถึง จากนั้นให้เปิดฝากระโปรงรถทั้งสองคัน ดับเครื่องยนต์และปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในรถ จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะ
1.ให้นำสายพ่วงแบตเตอรี่มาหนีบที่ขั้วบวกของรถคันที่แบตเตอรี่หมด
2.นำตัวหนีบอีกด้าน ไปหนีบกับขั้วบวกของรถที่มาช่วยพ่วง
3.นำสายพ่วงแบตเตอรี่อีกเส้น ไปหนีบเข้าที่ขั้วลบของรถคันที่มาช่วยพ่วง
4.นำตัวหนีบอีกด้านไปหนีบที่เหล็กโครงรถ(ไม่ใช่ตัวถังรถนะคะ) เช่น น็อตที่ยึดหัวโช้ค หรือโครงเหล็กด้านหน้า เป็นต้น แต่ไม่แนะนำให้หนีบกับขั้วลบของรถคันที่แบตเตอรี่หมด เพราะอาจจะมีกระแสไฟวิ่งเข้าไปมากจนเกินไป หรืออาจจะมีการช็อตที่หัวของขั้ว จนฟิวส์ในรถขาดก็เป็นได้
5.ให้สตาร์ทรถคันที่มาช่วยพ่วง แล้วรอสักครู่
6.ตามด้วยการสตาร์ทรถคันที่แบตเตอรี่หมด เมื่อสตาร์ทแล้วให้ลองสังเกตการทำงานของมอเตอร์สตาร์ท ถ้าไม่หมุนหรือหมุนช้า ให้ตรวจสอบการหนีบที่ขั้วบวกใหม่อีกครั้ง บางทีอาจจะหนีบไม่แน่น แต่ถ้าหนีบแน่นแล้ว แต่มอเตอร์สตาร์ทก็ยังไม่หมุน ให้ลองพ่วงทิ้งไว้สัก5 นาทีก่อน แล้วลองสตาร์ทใหม่อีกครั้ง แต่ถ้ายังไม่หมุนเหมือนเดิม ให้ดับเครื่องรถ แล้วถอดสายออก เป็นไปได้ว่าตัวแบตเตอรี่ของรถที่แบตเตอรี่หมดนั้น น่าจะไม่มีไฟเหลืออยู่เลย กรณีนี้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เท่านั้นค่ะ
7.แต่ถ้าหากสตาร์ทเครื่องแล้ว มอเตอร์สตาร์ทก็ยังหมุนปกติ แต่รถกลับสตาร์ทไม่ติด ให้ดับเครื่อง เพราะปัญหาน่าจะอยู่ที่จุดอื่น ไม่ใช่แบตเตอรี่
8.แต่ถ้าหากพ่วงแล้วรถสตาร์ทติดแล้ว ให้ถอดสายพ่วงแบตเตอรี่ออก แล้วนำรถไปเช็คที่ศูนย์ทันทีเลยนะคะ

ถอดสายพ่วงแบตเตอรี่อย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัย
หลังจากที่พ่วงแบตเตอรี่รถเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนการถอดสายพ่วงก็สำคัญนะคะ เพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยของทั้งตัวคุณและรถด้วย สามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ได้เลยค่ะ