top of page

ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน

เข้าหน้าฝนกันแล้ว การขับขี่รถบนท้องถนนก็ต้องอาศัยความระมัดระวังรอบด้านเป็นพิเศษ เพราะไหนจะถนนลื่นกว่าปกติ ฝนที่กระหน่ำตกลงมาอาจจะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดีนัก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆเพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัยในช่วงหน้าในมาฝากกันค่ะ


การเตรียมสภาพรถ

ก่อนออกจากบ้าน คุณควรตรวจสอบสภาพของรถทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณไฟว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ รวมถึงอุปกรณ์ใบปัดน้ำฝนว่ายังใช้การดีอยู่หรือเปล่า ส่วนกระจกรถต้องเช็กให้มั่นใจว่าไม่มีรอยขูดขีดหรือรอยฝ้า ถ้าจะให้ดี ควรเตรียมผ้าแห้งดีๆไว้สักผืนเพื่อเช็ดฝ้าที่ติดอยู่กระจกภายในรถ และที่สำคัญอย่าลืมหมั่นเติมน้ำในกระปุกฉีดน้ำอยู่เสมอนะคะ มาที่ล้อรถกันบ้าง ให้เลือกใช้ดอกยางที่ละเอียด และเติมลมยางให้มีแรงดันมากกว่าปกติเพื่อให้หน้ายางแข็ง จะช่วยให้ยางมีกำลังในการรีดน้ำได้ดีมากขึ้น ที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือ การตรวจผ้าเบรกให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ถ้าลองเบรกแล้วรถมีอาการปัดแนะนำให้เปลี่ยนผ้าเบรกใหม่เลยค่ะ


ตรวจไฟหน้าและไฟท้ายรถ

ในวันที่ฝนตกหนัก หนึ่งในสิ่งที่ช่วยได้ดีที่สุด ก็เห็นจะเป็นสัญญาณไฟหน้าและไฟท้ายรถนี่ล่ะค่ะ เพราะจะทำให้รถคันอื่นมองเห็นรถเราชัดเจนขึ้น ซึ่งเรามีข้อแนะนำในการเปิดสัญญาณไฟหน้า ดังต่อไปนี้ค่ะ

· ควรใช้สัญญาณไฟแบบปกติ ถ้าหากรถของคุณมีไฟตัดหมอกก็สามารถเปิดได้เช่นกัน แต่ข้อควรระวังคืออย่าใช้ไฟกระพริบหรือไฟฉุกเฉินเด็ดขาด เพราะรถที่ตามมา จะไม่รู้ว่ารถคุณกำลังจอดหรือกำลังเคลื่อนตัว อาจทำให้ชนท้ายได้ค่ะ

· ไม่ควรเปิดไฟสูง เพราะอาจจะทำให้รถที่สวนมาโดนไฟแยงตา ทำให้มองเห็นถนนไม่ชัด อาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุได้


การเปิดที่ปัดน้ำฝน

การเลือกใช้ที่ปัดน้ำฝนในช่วงหน้าฝนก็สำคัญนะคะ ควรเลือกใช้ให้ถูกลักษณะ เช่นถ้าฝนตกไม่มาก ปรอยๆ ให้เลือกใช้ที่ปัดน้ำฝนที่ปัดเพียงครั้งเดียวหรือสองครั้งแล้วหยุด แต่ถ้าหากวันไหนฝนตกหนัก ก็จะต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ เพื่อให้มองเห็นสภาพถนนชัดเจนขึ้น

จำกัดความเร็วในการขับขี่


“ฝนตกถนนลื่น” เป็นคำที่บรรยายสภาพถนนในช่วงหน้าฝนได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการบอกเป็นนัยๆด้วยว่าท่านผู้ขับขี่ควรระมัดระวัง และจากการศึกษาพบว่า ช่วงที่ฝนเริ่มตกใน 10 นาทีแรก เป็นช่วงที่รถมีโอกาสลื่นไถลได้มากที่สุด ดังนั้นควรลดความเร็วของรถลงให้เหลือประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะเป็นความเร็วที่สามารถควบคุมรถไม่ให้ลื่นไถลในช่วงที่ฝนตกได้ แต่ถ้าหากรถเกิดลื่นไถลหรือที่เรียกว่า “เหินน้ำ” ห้าม!!เหยียบเบรกเอี๊ยด!ทันทีนะคะ เพราะจะทำให้รถพล